การใช้บัตรกดเงินสดแบบไม่ให้เป็นหนี้เลยนั้นอาจจะเรียกว่าเป็นไปไม่ได้ ต่างจากบัตรเครดิตที่ยังมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย 45-55 วัน (แล้วแต่สถาบันการเงินจะเป็นผู้กำหนด) ที่หากคุณชำระเต็มจำนวนภายในระเวลาปลอดดอกเบี้ย คุณจะไม่ต้องเสียดอกเบี้ยแม้แต่บาทเดียว แต่บัตรกดเงินสดหากกดออกมาแล้วถือว่ามีดอกเบี้ยเกิดขึ้นแล้วทันที ยิ่งจำนวนวันในการชำระคืนนานเท่าใด ก็ยิ่งมีดอกเบี้ยเพิ่มมากขึ้นนานเท่านั้น ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการใช้บัตรกดเงินสดก็คือ รีบชำระคืนโดยเร็วที่สุดโดยไม่ต้องรอบิลเรียกเก็บเงินปลายเดือน ยิ่งชำระคืนเร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งเสียดอกเบี้ยน้อยเท่านั้นนั่นเอง
จะเห็นได้ว่าบัตรกดเงินสดนั้น เหมาะสำหรับเก็บเอาไว้ใช้เป็นวงเงินฉุกเฉินจริง ๆ เท่านั้น ซึ่งเป็นกรณีที่ต้องใช้เงินก้อนด่วนแบบที่ไม่สามารถไปรออนุมัติสินเชื่อเงินกู้ได้ทัน และไม่มีเงินสดฉุกเฉินสำรองเอาไว้ เช่น ไปต่างประเทศแล้วร้านค้าหรือบริการไม่รับบัตรเครดิต หรือต้องรีบนำเงินไปชำระค่ารักษาพยาบาลในโรงพบาบาลที่ต้องสำรองจ่ายไปก่อน แล้วนำใบเสร็จไปขอเงินคืนจากบริษัทประกันทีหลัง เป็นต้น
อย่างไรก็ดี เราขอแนะนำว่าคุณควรจะเก็บเงินส่วนหนึ่งเอาไว้เป็นเงินสำหรับกรณีฉุกเฉิน ซึ่งเป็นเงินส่วนที่แยกจากเงินเก็บออมปกติและเงินเก็บสำหรับเกษียณอายุ โดยจำนวนนั้นไม่ตายตัวแต่โดยปกติจะนิยมเก็บเงินส่วนนี้ประมาณ 3-6 เดือนของรายได้ที่คุณได้รับต่อเดือน เผื่อเอาไว้ในกรณีที่ต้องใช้เงินก้อน ซึ่งวิธีนี้ จะทำให้คุณไม่ต้องเสียดอกเบี้ยให้บัตรกดเงินสด ที่คิดเป็นรายวันจนกว่าคุณจะชำระเงินคืนโดยไม่จำเป็นนั่นเอง
บัตรกดเงินสดนั้นถือว่ามีประโยชน์ในกรณีฉุกเฉิน แต่อัตราดอกเบี้ยและการคิดคำนวณดอกเบี้ยเป็นรายวันนั้น ถือว่าน่ากลัวสำหรับคนที่ใช้โดยที่ไม่วางแผนทางการเงิน ฉะนั้น มีเงินสดเก็บเอาไว้เผื่อในกรณีฉุกเฉินจะดีที่สุดนะคะ